เด็กยุคใหม่ เสี่ยงภาวะกระดูกสันหลังคด

“เด็กยุคใหม่” เสี่ยงภาวะกระดูกสันหลังคด

.

“เด็กเอ๋ยเด็กดีต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน” เพลงประจำวัยเด็กที่หลายคนคุ้นเคยกล่าวไว้ แต่ทุกวันนี้ “เด็กยุคใหม่” มีหน้าที่และกิจกรรมเกินสิบอย่างด้วยกันทั้งนั้น

ด้วยกิจกรรมที่มากมาย ทำให้เรามีสิ่งที่ต้องโฟกัสมากขึ้น จนมองข้ามสิ่งสำคัญบางอย่างไป ใช่แล้ว! ร่างกายของเรานั่นเอง

ทำให้ “เด็กยุคใหม่” ต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงอย่าง “ภาวะกระดูกสันหลังคด” กันมากขึ้น

ภาวะกระดูกสันหลังคด พบมากในช่วงวัยเด็กที่ย่างเข้าสู่วัยรุ่นและวัยทำงาน

บางคนพ่อแม่ ปู่ย่าตายายเป็นภาวะกระดูกสันหลังคด ลูกหลานก็อาจจะมีภาวะนี้ได้ด้วยเช่นกัน สืบทอดมาทางพันธุกรรม

.

ภาวะกระดูกสันหลังคด คือภาวะที่มีกระดูกสันหลังเบนออกจากแนวกลาง อาจจะไปทางซ้ายหรือขวา ก็ได้

*วัดมุม (cobb angle) จากฟิล์มเอกซเรย์ ได้มากกว่า 10 องศา*

.และมักมีปัญหากระดูกสันหลังในทั้งสามมิติ

มิติที่ 1 หลังค่อมหรือพบหลังตรงมากกว่าปกติ

มิติที่ 2 เบนออกทางด้านข้าง

มิติที่ 3 มีการบิดหมุนของกระดูกสันหลังร่วมด้วย


ลองมาสังเกตดูกันดีกว่าว่า กิจกรรมใดบ้างที่ “เด็กยุคใหม่” มักทำเป็นประจำและเป็นปัจจัยที่ทำให้กระดูกสันหลังคดได้

.

1.นั่งกันไปยาวๆ บางคนนั่งเรียนตั้งแต่เช้าจรดเย็น ต่อด้วยเรียนพิเศษ ก็ยังคงนั่งต่อไป โต๊ะเรียนสูงกว่าหรือเตี้ยกว่าตัวของเรา ทำให้นั่งท่าไม่เหมาะสม ต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนสังเกตเห็น หลังค่อม หลังนูน ไหล่ไม่เท่ากัน


2.นั่งเสพ Social ชิลๆ ด้วยท่าทางไขว้ห้าง เด็กยุคใหม่ ไม่มีใคร ไม่เล่น Social ไม่ว่าจะจากมือถือ หรือแท็บเล็ต เล่นเพลินๆ เผลอยกขามาไขว้จนสะโพกยกและโย้ไปด้านข้าง โดยไม่รู้ตัว



3.การบ้านท่วมหัว เอาตัวไม่รอด หลังจากเลิกเรียน โครงงาน การบ้านก็มา นั่งปั่นกันต่อไป นั่งเก้าอี้อาจจะเบื่อ ขอทำงานบนที่นอนล่ะกัน นั่งเอนๆ ไหลๆ กึ่งนั่งกึ่งนอน เหยียดขาทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นท่าที่ไม่ถูกหลักการนั่ง ทำให้กล้ามเนื้อทำงานไม่สมดุล กระดูกบิดเบี้ยวได้



4.หิ้วกระเป๋า หรือ หิ้วหินกันแน่? กระเป๋าที่เต็มไปด้วยหนังสือจากหลายวิชา ข้าวของหนักๆในกระเป๋าจิปาถะ เดินถือกัน จนตัวเอียงไปข้าง



5.เวลามีน้อย ใช้สอยอย่างประหยัด หมดจากกิจกรรมอื่นๆ ขอนอนพัก นอนดูซีรี่ย์ เวลาที่มีก็หมดไป ทำให้ห่างไกลการออกกำลังกาย กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง กล้ามเนื้อตึง ข้อต่อยึดติด การทำงานของปอดและหัวใจที่ไม่มีประสิทธิภาพ จึงควรส่งเสริมให้เด็กๆมีการเคลื่อนไหวหรือเล่นกีฬา



6.อาการปวดมาไวกว่าที่คิด ในภาวะกระดูกสันหลังคด ไม่จำเป็นต้องมีอาการปวดเสมอไป แต่ด้วยโครงสร้างที่ผิดปกติ กล้ามเนื้อที่ไม่สมดุล บวกกับพฤติกรรมที่ผิดๆ ที่ทำให้เนื้อเยื่อของเราเกิดการบาดเจ็บสะสมได้ง่าย นำไปสู่อาการปวดเรื้อรัง ยิ่งปวด ก็ยิ่งตัวเบี้ยว ยิ่งตัวเบี้ยวก็ยิ่งมีโอกาสปวดได้ง่าย วนเป็นวงจรที่ไม่สิ้นสุด



สุดท้ายนี้ หากลองสังเกตพฤติกรรมของเด็กๆ แล้วพบว่ามีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกสันหลังคดลองปรึกษาขอคำแนะนำจากแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดใกล้ๆท่านได้

หรือมาพบพวกเราได้ที่ กันยาคลินิกกายภาพบำบัด ทั้ง 3 สาขา

อย่าปล่อยให้พฤติกรรมเหล่านี้ เกิดขึ้นกับเด็กๆของทุกท่าน

#กระดูกสันหลังคด

#KanyaPTClinic
#กันยาคลินิกกายภาพบำบัด
#PhysicalTherapy
#กายภาพบำบัด
#KanyaTheArticle


ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์

และฝากติดตามสาระดีๆได้ที่

www.kanyapt.com

FB : กันยา คลินิกกายภาพบำบัด


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

- สาขาสิรินธร : 02-434-4111

- สาขาเหม่งจ๋าย : 02-274-4471-72

- สาขาอุดมสุข : 02-175-4944


Credit


Content By กภ.ศุภกานต์ จุลละจินดา

Design by กภ.พิชญาดา สุวรรณดี