ชาลงเเขนเป็น Stroke หรือไม่? ชาแบบไหนอาจเป็น Stroke

อาการชาจาก Stroke หรือไม่? แยกอาการชาและปวดบ่า

ชาลงเเขนเป็น Stroke หรือไม่? ชาแบบไหนอาจเป็น Stroke


หลายครั้งมีโอกาสได้พูดคุยกับคนไข้ที่เข้ามารับการรักษาอาการปวดบ่าและชาลงเเขนจากการนั่งทำงานนานๆ คนไข้มักมีความกังวลและมีคำถามที่ได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่า

“อาการปวดบ่า ชาลงแขนแบบนี้ จะกลายเป็น stroke ไหมคะ?” วันนี้นักกายภาพบำบัดทางระบบประสาทมีคำตอบเพื่อไขข้อข้องใจให้ค่ะ

คำตอบคือ อาการปวดบ่า ชาลงแขน ไม่ได้ทำให้เกิดอาการ stroke ตามมาค่ะ

ทำไมอาการปวดบ่าและชาลงแขนถึงไม่ทำให้เกิด Stroke


เนื่องจากการเกิด stroke นั้นมีพยาธิสภาพมาจากสมอง ส่วนอาการปวดบ่า ชาลงแขนจากการนั่งทำงานนานๆ ส่วนมากจะมีสาเหตุมาจากการที่กล้ามเนื้อทำงานหนักจนเกิดการบาดเจ็บ หรือเกิดจากความผิดปกติของข้อต่อ ส่งผลให้เกิดการรบกวนเส้นประสาท ทำให้คนไข้เกิดภาวะชาร้าวลงไปที่แขนตามมา

อาการปวดบ่าและชาลงแขนเป็นผลมาจากการใช้กล้ามเนื้อที่ผิดท่า หรือนั่งในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัวและอักเสบ ส่งผลให้เกิดการกดทับเส้นประสาทบริเวณคอและไหล่ ทำให้เกิดอาการชาและปวดบ่า

อาการชาจาก Stroke เป็นอย่างไร?


คนไข้ที่เป็น stroke อาจมีอาการชาร่วมด้วยได้ เนื่องจาก stroke คือ ภาวะที่มีสาเหตุหลักมาจากความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง ไม่ว่าจะเป็นหลอดเลือดสมองตีบตัน หรือแตก ซึ่งความผิดปกติของหลอดเลือดนี้จะนำไปสู่ภาวะสมองขาดเลือด จากสาเหตุข้างต้นทำให้เซลล์สมองได้รับความเสียหาย จึงมีแนวโน้มที่กระบวนการในการรับรู้ความรู้สึกจะเกิดความผิดปกติ ส่งผลให้คนไข้รับความรู้สึกบริเวณผิวเปลี่ยนไป หรือเกิดอาการชานั่นเอง โดยลักษณะของอาการชาที่พบบ่อยในคนไข้ stroke คือ อาการชาแหลมๆ เหมือนเข็มทิ่ม

การเกิด stroke อาจทำให้เกิดอาการชาบริเวณใบหน้า แขน หรือขา โดยเฉพาะในด้านเดียวของร่างกาย อาการชานี้มักจะเกิดขึ้นทันทีและอาจมาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น ความอ่อนแรง ปากเบี้ยว หรือการพูดไม่ชัด ซึ่งเป็นอาการที่บ่งบอกถึงการเกิด stroke

แยกความแตกต่างของอาการชาจากกระดูกกล้ามเนื้อกับชาจาก Stroke ได้อย่างไร?


เราสามารถแยกอาการชาจาก stroke ได้โดยการที่คนไข้ต้องสังเกตอาการแสดงอื่นๆ ร่วมด้วย เนื่องจาก stroke มีพยาธิสภาพที่สมอง ดังนั้นการชาจาก stroke จะมาพร้อมกับอาการอ่อนแรง โดยหากคนไข้สังเกตว่ามีอาการชาที่แขน ขา หรือใบหน้า ร่วมกับอ่อนแรงในร่างกายซีกเดียวกัน ตลอดจนพบอาการปากเบี้ยว พูดไม่ชัด นั่นคือ สัญญาณที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงสูงที่จะเกิด stroke คนไข้ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน

นอกจากนี้ อาการชาจากการนั่งทำงานนานๆ มักจะเกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาหลังจากการใช้งานกล้ามเนื้อเป็นเวลานานและสามารถบรรเทาได้ด้วยการเปลี่ยนท่า นวดกล้ามเนื้อ หรือทำกายภาพบำบัด ในขณะที่อาการชาจาก stroke จะไม่หายไปเมื่อทำเช่นนั้นและอาจรุนแรงขึ้น

หากมีปัญหาหรืออาการทางกายภาพบำบัดอื่นๆ อยากปรึกษาพวกเราชาวกันยา สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

  • Line: @Kanyaptclinic
  • โทรศัพท์ติดต่อ:
    • สาขาสิรินธร โทร 02-434-4111
    • สาขาเหม่งจ๋าย โทร 02-274-4471
    • สาขาอุดมสุข โทร 02-175-4944
    • สาขาซีเนียร์กันยา โทร 080-576-3334
    • สาขาพญาไท โทร 080-575-1108
    • สาขาประชาชื่น โทร 02-591-5915
    • สาขาเจริญราษฎร์ โทร 02-288-0110
    • สาขาเพชรเกษม โทร 080-581-6222
    • สาขามีนบุรี โทร 095-045-2496
    • สาขานครอินทร์ โทร 080-596-5875


บทความโดย กภ.ขนิฐา ปัญจกุล

รูปประกอบโดย กภ.ประกายพฤก ป้องปัดพาล